ทองคำเปรียบเหมือนเป็นตัวแทนของ "สินทรัพย์ปลอดภัย" หรือ ที่เรียกว่า "Safe Heaven" มาโดยตลอด แต่แล้วตั้งแต่ต้นปี 2556 ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์พอดี เปรียบเสมือนมีสายฟ้าฟาดครั้งใหญ่ ที่สามารถสั่นสะเทือนอุตสาหกรรมทองคำไม่มากก็น้อย ซึ่งมีผลต่อความรู้สึกและความคิดของคนทั่วไปว่าทองคำยังถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกหรือไม่?!?
เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกของประวัติราคาทองคำ ในอดีคเคยเกิดเหตุการณ์คล้ายๆลักษณะนี้แล้ว อย่างที่ผู้ใหญ่หลายๆท่านมักจะกล่าวเสมอว่า ประวัติศาสตร์มักย้อนซ้ำรอยตัวเองอยู่บ่อยๆ ครั้งนี้ก็อาจจะเป็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน แต่รอบประวัติศาสตร์ของราคาทองคำแต่ละครั้งนั้นจะไม่หวือหวาแบบการลงทุน หรือ มีเหตุการณ์ที่ทำให้หัวใจเต้นระส่ำระสายบ่อยครั้งนัก เพราะจะเกิดขึ้นเป็นรอบใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ ในรอบ 5 ถึง 10 ปี
แต่ในรอบนี้ผู้เขียนเพีียร์เจมส์ ขอใช้ความคิดส่วนตัว กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของทองคำนั้นน่าจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆอย่างในประวัติศาสตร์ คือจะมีการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำต่อจากนี้จะรวดเร็วมากขึ้น เพราะมีปัจจัยเสริมอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้นหากเปรียบเทียบจากอดีต คือนอกจากทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยแล้ว ระยะหลังนี้มีเทรนของการลงทุนในทองคำมากขึ้นหลากหลายรูปแบบ เช่น ลงทุนในทองคำรูปพรรณ จิวเวลรี่ ทองคำแท่ง เหรียญทองคำ และ มีการเก็งกำไรระยะสั้นของทองคำในตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้า อีกด้วย
การลงทุนทั้งในทองคำแท่งและตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Future) ที่ตอนแรกจัดตั้งมาเพื่อเป็นตลาดป้องกันความเสี่ยงของราคาทองคำต่ออัตราแลกเปลี่ยนจากเงินสกุลต่างประเทศ เช่น ดอลลาร์ หรือ ยูโร คงกล่าวได้ว่ามีการป้องกันความเสี่ยงที่ใช้ประโยชน์จากกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับทองคำบางส่วนแน่นอน แต่ที่มากกว่านั้นคือการเข้าไปลงทุนโดยนักลงทุนทัวไป หรือ นักลงทุนรายย่อย เพราะเป็นตลาดที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ซื้อขายได้ไว ผ่านทาง โบรกเกอร์ หรือ อินเตอร์เน็ต มีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าได้ และ สามารถเข้าลงทุนได้โดยได้ผลตอบแทนทั้งราคาทองที่มีทิศทางขาขึ้น และ ขาลง แต่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษอย่างมากคือ หลักของ High Risk, High Return เพราะ การลงทุนใดที่ให้ผลตอบแทนที่มากกว่า ก็จะมาพร้อมความเสี่ยงที่มากกว่า เช่นเดียวกัน ดังนั้นทางเพียร์เจมส์ขอให้ทุกท่านที่ต้องการลงทุนในทองคำศึกษาหาความรู้ อ่าน อ่าน และ อ่าน อย่างสม่ำเสมอ ก่อนการลงทุนทุกครั้งนะคะ เพราะ ความรู้และประสบการณ์นั้นเป็นการสะสมจากตัวเราเองจะดีที่สุด โดยส่วนตัวนั้น ก็สารภาพตามตรงว่ายังไม่ได้เก่งและรู้ทุกอย่างในฟิลด์ทองคำ และ การเก็งกำไรในทองคำจากตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้า เพราะได้เข้ามาศีกษาความรู้เรื่องนี้ไม่นาน แต่มีความสนใจในการลงทุนในทองคำ ทั้งด้านทองคำแท่ง จิวเวลรี่ที่ทำจากทองคำ ทองรูปพรรณ และ กองทุนทองคำ ทำให้พยายามรวบรวมข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับทองคำ ซึ่งจะนำมาแชร์ให้เพื่อนๆ ที่รักการอ่านหรือสนใจลงทุนในทองคำเรื่อยๆ ในบล็อคนี้นะคะ อาจจะกล่าวได้ว่า เพียร์เจมส์ยังคงเชื่อมั่นในการลงทุนในทองคำอยู่ในระดับหนึ่ง และเชื่อว่าทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยและเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจอาจจะมากกว่าแต่ก่อน เนื่องจากทองคำไม่เพียงชนะอัตราเงินเฟ้อที่เหมือนจะเพิ่มขึ้นทุกปี และทองคำสามารถเก็บรักษาให้มูลค่าเพิ่มไปตามกาลเวลา และยังสามารถเพิ่มมูลค่าได้อย่างมากหากมีภาวะวิกฤตเกิดขึ้น ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร ดังนั้นการเก็บทองคำไว้ ก็อุ่นใจได้ในระดับหนึ่งที่เดียว และหากจะพูดเป็นลักษณะการเงินแล้ว ทองคำยังถือเป็นสินทรัพย์ที่มี ความคล่องตัวสูง(High Liquidity) คือ สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เร็วว่า คือ ซื้อง่ายขายได้เร็ว สินทรัพย์ชนิดอื่นๆ เช่น นาฬิกา(Watch) เหรียญสะสม(Collective coin) พระเครื่อง(Amulet) หรือ ที่ดิน(Land)
***แต่ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า เราควรลงทุน หรือ เก็บเป็นทองคำทั้งหมดของการลงทุน เพราะ หลักการกระจายความเสี่ยงก็มีความสำคัญมาก ดังนั้น ขอกล่าวตามดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ที่ได้กล่าวไว้ว่า "หากจะเก็บทองคำ ก็ไม่ควรมากกว่า 10 % ของพอร์ตการลงทุน" นะคะ***
คีย์เวริด์: การลงทุน, การลงทุนในทองคำ, ทองคำ, ความเสี่ยง, ผลตอบแทน
Keyword: Investment, Gold investment, Risk, Return
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น