หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ทองเนื้อเก้า(Pure Gold)

ลักษณะของทองเนื้อเก้าเป็นอย่างไร

ช่วงนี้หลายๆคนคงคุ้นหูกับคำว่า "ทองเนื้อเก้า" เป็นแน่แท้ เราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ติดงอมแงมเช่นกัน หนังสนุกได้แง่คิดหลายๆอย่างในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะตัวเองของเรื่อง วันเฉลิม หากจะเปรียบตามความหมายแล้ว วันเฉลิมในเรื่องเปรียบดั่งทองเนื้อเก้าจริงๆ ที่นี้หลายคนคงอยากรู้ความหมายและที่มาของคำว่า "ทองเนื้อเก้า" ว่าหมายความว่าอย่างไร ก็ขอย้อนกลับไปเล่าเรื่องในอดีตก่อนว่า ในสมัยโบราณนั้น จะเรียกทองคำบริสุทธิ์ (มีสิ่งเจือปนอื่นๆน้อยมากที่สุด) ว่า ทองเนื้อนพเก้า หรือ เรียกสั้นๆว่า ทองเนื้อเก้า

โดยทองคำธรรมดาในสมัยนั้น นิยมเรียกหน่วยความบริสุทธิ์ของทองคำเป็น "เนื้อ" โดยมีได้หลายประเภท เช่น ทองเนื้อสี่ (หนึ่งบาท มีราคาเพียงแค่ 4 บาทเท่านั้น) ทองเนื้อห้า(หนึ่งบาท มีราคาเพียงแค่ 5 บาทเท่านั้น) ทองเนื้อหก ทองเนื้อเจ็ด ทองเนื้อแปด และทองเนื้อเก้า โดยเนื้อทองที่แสดงความบริสุทธิ์มากที่สุด คือทองเนื้อเก้า และหากต้องการซื้อทองเนื้อเก้า น้ำหนักหนึ่งบาท ในสมัยนั้นจะมีราคาสูงสุด คือ 9 บาท ทำให้มีการเรียกชื่อเฉพาะเจาะจงเป็นที่เข้าใจกันว่า ทองเนื้อเก้า คือ ทองคำที่มีโลหะหรือสิ่งเจือปนน้อยมากและมีความบริสุทธ์ของทองคำมากที่สุด บางทีก็เรียก ทองนพเก้า หรือ ทองนพคุณ หากเทียบกับปัจจุบัน ทองนพเก้า หรือ ทองเนื้อเก้า อาจจะเทียบได้กับทองบริสุทธิ์ 99.99% ได้ ที่มีคุณลักษณะอ่อนนิ่ม ขัดเป็นเงาได้ง่าย แต่คงรูปได้ยาก และให้สีเหลืองทองอร่ามตาสวยงาม


โดย มีลำยองที่เป็นตัวถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆเปรียบเหมือนเป็นตัวละครหลักและทำให้เรื่องเข้มข้นน่าติดตาม แต่ตัวเอกของเรื่องที่แสดงถึงคำว่า ทองเนื้อเก้า ได้อย่างชัดเจนน่าจะหมายถึงวันเฉลิม ลูกชายของลำยองที่ถึงแม้จะมีแม่ขี้เมา เกียจคร้าน สำส่อน และถึงแม้ว่าจะโดนแวดล้อมไปด้วยสิ่งไม่ดีต่างๆ เช่นกิเลสยั่วยุมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สุรา การพนัน ครอบครัวไม่สมบูรณ์ และขาดการดูแลจากแม่แท้ๆ  ก็สามารถทนอยู่ได้พร้อมทั้งยังสามารถคงคุณงามความดีของตนอยู่ได้อย่างสม่ำเสมอไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใดก็ตาม คือวันเฉลิมเป็นตัวละคนที่ใฝ่ในทางที่ดี ไม่ว่าสิ่งแวดล้อมจะเป็นอย่างไรก็ยังทำความดีได้ เปรียบเหมือนทองเนื้อเก้าที่มีทองคำบริสุทธิ์เป็นส่วนผสมมากที่สุด แม้จะโดนไฟแผดเผามากเท่าไร ก็ยังเป็นทองอยู่ดี โดยคุณสมบัติของทองคำนี้ไม่หายไปจากการโดยเผาและไม่สึกกร่อนไปตามกาลเวลา ไม่ว่าอย่างไรทองก็ยังเป็นทองและมีคุณค่าในตัวเองอยู่เสมอ หากเปรียบความดีดั่งทองคำบริสุทธิ์แล้วไม่ว่าจะโดนไฟกิเลสต่างๆแผดเผานานเท่าใดความดีก็ไม่มีวันเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นได้เสมือนดังทองคำที่ไม่กลัวไฟแผดเผาฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น 
สรุปแล้ว หนังเรื่องนี้ทำมากี่ครั้ง ก็ไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวังเลยนะคะ ทุกยุคทุกสมัยก็จะได้ตัวละครแสดงนำที่เล่นได้ดีมากๆ ถ่ายทอดบทประพันธ์ของ โบตั๋น


ขอเพิ่มเกล็ดเล็กๆน้อยของการดูทองนะคะ 


หากเทียบไปแล้วคิดว่าการตั้งชื่อเรื่องนี้ ผู้เขียนบทประพันธ์น่าจะมีความรู้เกี่ยวกับทองคำมากที่เดียว เพราะอย่างที่เปรียบเทียบในตอนต้นของบทความนี้ว่า ความดีของวันเฉลิมก็เปรียบได้กับทองคำที่ไม่กลัวไฟเผา บางคนอาจจะนึกออกแล้วว่า หมายถึงอะไร
ทองคำหลังจากโดนไฟเผา (Gold during Melting Process)
บางครั้งการตรวจเช็คทองว่าเป็นทองแท้หรือไม่จะทำได้โดยนำทองหรือเครื่องประดับชิ้นนั้นไปเผาไฟนะคะ ซึ่ง ทองแท้จะไม่ดำ ไม่ไหม้ แต่ในทางตรงกันข้าม ยิ่งเผาไฟมากเท่าไร ทองแท้กลับจะยิ่งให้สีที่สุกเหลืองทองอร่ามมากกว่าเดิม ที่นี้หากเปรียบดั่งความดีในตัวคนยิ่งเจออุปสรรค รวมทั้งกิเลสตัณหาหรือสิ่งยั่วยุต่างๆที่แผดเผาได้เกือบทุกเวลา หากเราผ่านไปได้โดยยังคงรักษาความดีและแนวทางปฎิบัติที่ดีไว้ได้ ทำให้กิเลสต่างๆที่เข้ามาก็เป็นเพียงแค่เครื่องทดสอบและขัดเกลาเราทุกคนให้หนักแน่นและผ่านอุปสรรคต่างๆหรือตัณหาไปได้ แล้วความดีนั้นเองจะค่อยหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว เป็นตัวเราที่ประกอบไปด้วยคุณงามความดีทั้งหมดดั่งทองเนื้อเก้า 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น